การแถลงข่าว

IVECO สร้างเกียรติประวัติในงาน IAA 2018 ผ่านบูธยานยนต์ที่ไม่ใช้ระบบเชื้อเพลิงดีเซล และนำเสนอยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า CNG และ LNG เป็นยานยนต์ทางเลือก

​IVECO นำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับการขนส่งที่ยั่งยืน และปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ที่ บูธยานยนต์ที่ไม่ใช้ระบบเชื้อเพลิงดีเซลซึ่งพร้อมจำหน่ายในตลาดแล้ว พร้อมด้วยระบบพลังงานทางเลือกเชิงพาณิชย์ในปัจจุบัน และแสดงถึงวิสัยทัศน์ในระยะยาวด้วยการทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจและผู้ผลิตตัวถังยานยนต์

IVECO นำยานยนต์ 18 รายการเพื่อแสดงผลิตภัณฑ์ยานยนต์ที่ยั่งยืน ครอบคลุมตั้งแต่รถประจำทางระบบไฟฟ้าไปจนถึงรถบรรทุก LNG สำหรับการขนส่งระยะไกล นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมตอบสนองความต้องการของทุกธุรกิจและทุกภารกิจ ซึ่งรวมถึงยานยนต์ที่ได้รับรางวัลรับรองมากมาย เช่น 'รถบรรทุกแวนแห่งปี 2018' ของรถแวนตระกูล Daily Blue Power 'รถประจำทางที่ยั่งยืนแห่งปี 2019' จากยานยนต์ตระกูล Crealis ที่ติดตั้งระบบชาร์จพลังงานขณะรถยนต์เคลื่อนที่ และเป็นผู้ชนะรางวัลนวัตกรรมงานแสดงระบบเคลื่อนที่แห่งยุโรป รางวัล 'รถประจำทางที่ยั่งยืนแห่งปี 2018' จากยานยนต์ตระกูล Crossway LE NP และรางวัล 'รถบรรทุกที่ปล่อยคาร์บอนต่ำแห่งปี 2018' จากยานยนต์ตระกูล Stralis NP 460

นอกจากนี้ IVECO ยังเฉลิมฉลองการครบรอบ 40 ปีของยานยนต์รุ่น Daily เพื่อการระลึกถึงประวัติที่ยาวนานของความสำเร็จด้านยานยนต์ด้วยรุ่นลิมิเต็ดที่ปรับแต่งด้วยการออกแบบที่สร้างสรรค์อย่างพิเศษเฉพาะ

IVECO กำลังสร้างเกียรติประวัติที่ งานยานยนต์เชิงพาณิชย์ของ IAA (IAA) ครั้งที่ 67 ซึ่งเป็นงานกิจกรรมระดับนานาชาติที่สำคัญที่สุดในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์เชิงพาณิชย์ บริษัทได้จัดแสดงผลิตภัณฑ์ยานยนต์พลังงานทางเลือกเชิงพาณิชย์ที่ครอบคลุมผ่าน บูธยานยนต์ที่ไม่ใช้ระบบเชื้อเพลิงดีเซล สร้างสรรค์พื้นที่ปล่อยมลพิษต่ำ ขึ้นในงานจัดแสดงผลิตภัณฑ์นี้ นอกจากนี้เรายังเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมโต๊ะกลมที่เน้นในหัวข้อ "การเปลี่ยนแปลงการใช้งานพลังงานเพื่อมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืน" และกิจกรรมเวิร์คช็อปด้วยการทำงานร่วมกับบรรดาผู้ชำนาญการด้านบริการลูกค้าและพันธมิตรด้านเทคโนโลยี เพื่อหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงด้านการใช้พลังงานและหัวข้อที่เกี่ยวข้อง

Pierre Lahutte ประธานบริหารของแบรนด์ IVECO กล่าวแสดงความคิดเห็นที่งานแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นในวันนี้ว่า: "IVECO เป็นผู้ผลิตรายแรกสุดในประวัติของ IAA ที่นำเสนอบูธจัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช้ระบบพลังงานดีเซลใดๆ ทั้งในตัวยานยนต์และตัวถังหลัก อุตสาหกรรมการขนส่งกำลังมีการเปลี่ยนแปลง สืบเนื่องจากแรงกดดันเกี่ยวกับการติดตั้งระบบพลังงานดีเซลและการเปลี่ยนแปลงด้านการใช้พลังงานที่เพิ่มมากขึ้น การจัดแสดงของเราได้นำเสนอยานยนต์ระบบไฟฟ้า ระบบพลังงาน CNG และ LNG ของ IVECO ที่มีพร้อมบริการในปัจจุบัน และนำเสนอยานยนต์ระบบดีเซลทางเลือกสำหรับทุกภารกิจ ตั้งแต่ภารกิจการขนส่งมวลชนที่มีมูลค่าสูงในเขตเมืองโดยใช้พลังงานต่ำ ไปจนถึงการขนส่งลากพ่วงสินค้าหนักระยะทางไกล นอกจากนี้ ก๊าซธรรมชาติยังเป็นทางเลือกที่ให้ความเป็นไปได้สำหรับการเปลี่ยนไปสู่การใช้พลังงานไบโอมีเธนและพลังงานหมุนเวีบนได้อย่างราบรื่น บรรลุเป้าหมายของการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ และเปิดประตูไปสู่แนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่ได้รับการพิสูจน์มาตลอดแล้วว่าสามารถตอบสนองต่อเป้าหมายการปล่อยมลพิษต่ำลดลง และการดูดซับและเก็บสะสมของคาร์บอนได้"

นอกจากนี้ในงานกิจกรรมครั้งนี้ บริษัท Shell ซึ่งเป็นผู้จัดหาพลังงานระดับโลกที่มีความเชื่อเหมือนกับ IVECO ว่าการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในภาคการขนส่งนั้นต้องมีเชื้อเพลิงและเทคโยโลยีที่หลากหลายรองรับ ยังได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ของพวกเขาและร่วมแสดงความคิดเห็นในงานแถลงข่าวเช่นกัน Shell ยังได้จัดแสดงสถานีเติมเชื้อเพลิง CNG/LNG และสถานีชาร์จไฟฟ้าในบูธจัดแสดงอีกด้วย อันเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานร่วมกับแบรนด์ของเราเพื่อส่งเสริมด้านการพัฒนาเครือข่ายการชาร์จพลังงานไฟฟ้าและการเติมก๊าซธรรมชาติในประเทศเยอรมนี

การนำเสนอผลิตภัณฑ์ของ IVECO ในงาน IAA 2018 เป็นการนำเสนอยานยนต์เพื่อการขนส่งที่ยั่งยืนด้วยการผสมผสานทางพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของภารกิจต่างๆ ได้ ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ากำลังมีบทบาทที่สำคัญในปัจจุบัน โดยเฉพาะในภารกิจที่มีมูลค่าสูง เช่น การขนส่งมวลชน โดยเฉพาะภารกิจการขนส่งที่ต้องแวะจอดรับส่งผู้โดยสารบ่อยครั้งด้วยความเร็วต่ำ และใข้พลังงานต่ำในย่านใจกลางเมือง แหล่งกำเนิดพลังงานที่สำคัญอื่นๆ คือ ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งให้ระบบแก้ไขปัญหาที่สมบูรณ์สำหรับการขนส่งมวลชนและสินค้าอย่างยั่งยืนได้ ภายใต้การจัดแสดงและเวิร์คช็อปนี้ IVECO ได้มุ่งเน้นที่ข้อได้เปรียบด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของก๊าซธรรมชาติ ซึ่งสามารถให้การลดการปล่อยมลพิษส่วนใหญ่ได้อย่างมากด้วย 90% สำหรับ NO2, 99% สำหรับฝุ่นละออง, 10% สำหรับ CO2 เมื่อใช้ยานยนต์ระบบพลังงานก๊าซ ซึ่งจะเพิ่มสูงขึ้นมากถึง 95% เมื่อใช้ยานยนต์ระบบพลังงานไบโอมีเธน

เศรษฐิจหมุนเวียนที่อิงตามการผลิตพลังงานจากขยะอินทรีย์และขยะจากภาคการเกษตรเกิดขึ้นได้จากการใช้เชื้อเพลิงไบโอมีเธน ทั้งนี้สามารถดำเนินการผ่านศูนย์บำบัดขยะอินทรีย์ ซึ่งจะผลิตก๊าซธรรมชาติและปุ๋ยหมักจากการรวบรวมขยะตามบ้านเรือน ขยะจากพืช ขยะจากศูนย์อาหาร และขยะในชุมชน วิธีการดังกล่าวสามารถกระทำได้อย่างต่อเนื่องผ่านถังหมักก๊าซชีวภาพเพื่อผลิตก๊าซมีเธนในไร่ โดยใช้ขยะต้นพืชและขยะเกษตรกรรมเป็นวัตถุดิบ เมื่อพืชเติบโตขึ้นจะดูดซับก๊าซ CO2 และแปลงเป็นคาร์โบไฮเดรต ดูดคาร์บอนไว้และปล่อยออกซิเจนออกสู่บรรยากาศ ในถังหมักก๊าซชีวภาพในไร่ ต้นพืชจะย่อยสลายสิ่งคงเหลือผ่านกระบวนการย่อยสลายโดยไม่ใช้ออกซิเจนเพื่อให้ก๊าซชีวภาพออกมา ก๊าซดังกล่าวจะถูกทำให้บริสุทธิ์เป็นไบโอมีเธน ซึ่งสามารถลำเลียงไปยังสถานีเติมเชื้อเพลิงและใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์ระบบก๊าซธรรมชาติเพื่อการขนส่งสินค้าได้
กระบวนการนี้ยังสร้างสารที่อุดมไปด้วยวิตามินที่ใช้สำหรับการผลิตปุ๋ย มอบสารอาหารกลับสู่ดิน เพิ่มปริมาณสสารอินทรีย์และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนออกสู่บรรยากาศด้วย ผลที่ตามมาคือ แนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ไม่ใช่แค่เพียงการลดการปล่อยก๊าซ CO2 จากยานยนต์อันเนื่องมาจากการดูดซับคาร์บอนไว้ในดินเท่านั้น ยังช่วยลด CO2 ในอากาศและก่อให้เกิด การลดวัฎจักรคาร์บอน

ผู้เยี่ยมชมบูธของ IVECO จะเข้าใจได้ว่าเศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงอยู่แล้วจากตัวอย่างของเมือง Lille ซึ่งดำเนินการให้บริการรถประจำทางระบบ CNG ของ IVECO ซึ่งใช้เชื้อเพลิงไบโอมีเธนที่ผลิตได้จากขยะในชุมชน โครงการดังกล่าวนี้มี Pot au Pin, Air Liquide และ arrefour เป็นผู้นำโดยใช้ก๊าซไบโอมีเธนจากขยะเกษตรกรรม และการเปิดโรงงานก๊าซชีวภาพขนาดใหญ่ที่สุดในโลกขึ้นที่ประเทศนอร์เวย์โดยบริษัท Biokraft

การนำเสนอของ IVECO ในงานนี้มุ่งที่จะส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม นอกเหนือจากการจัดแสดงยานยนต์และกิจกรรมหลากหลายรายการแล้ว เรายังมีพื้นที่เพื่อการศึกษาและนำเสนอข้อมูล ความรู้และวิดีโอที่อิงตามธีมหลักที่สำคัญ 4 รายการ: 'ก๊าซและก๊าซชีวภาพ - โซลูชั่นการขนส่งที่ยั่งยืนสำหรับปัจจุบันและอนาคต', 'การมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซ CO2 ของเรา', 'โซลูชั่นเพื่อความยั่งยืนสำหรับการจัดการกลุ่มยานยนต์' ด้วยการทำงานร่วมกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยี อย่างเช่น Michelin และหัวข้อ TCO ประสิทธิภาพภาคการผลิต'

IVECO ในงาน IAA:บูธนำเสนอยานยนต์ที่ไม่ใช้ระบบเชื้อเพลิงดีเซล 100% พร้อมยานยนต์ 18 รุ่น เพื่อความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมที่ตอบสนองทุกธุรกิจและทุกภารกิจ

บูธนำเสนอยานยนต์ที่ไม่ใช้ระบบเชื้อเพลิงดีเซล 100% พร้อมการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่เน้นแนวทางการขนส่งที่ให้ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมของ IVECO สอดคล้องกับเทคโนโลยีและแหล่งกำเนิดพลังงาน เพื่อตอบสนองความต้องการของทุกภารกิจ

สำหรับ การขนส่งสาธารณะในย่านใจกลางเมือง บูธของเราจัดแสดงยานยนต์ระบบไฟฟ้าตระกูล Daily Electric Minibus ที่มีการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ชิ้นส่วนของตระกูลที่ให้ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม Daily Blue Power ที่ได้รับรางวัล "รถบรรทุกแวนระดับนานาชาติแห่งปี 2018" โดยเป็นยานยนต์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับภารกิจการขนส่งขั้นสุดท้ายในย่านใจกลางเมืองทั่วไป รถประจำทางเขตเมืองระบบไฟฟ้า Heuliez Bus GX ELEC ที่มาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ก้าวหน้าที่สุด และรถประจำทางรุ่นใหม่ของ IVECO ตระกูล Crealis ที่ชาร์จในขณะขับเคลื่อนได้ โดยรวมเอาสายไฟเหนือศีรษะและที่กักเก็บพลังงานแบตเตอรี่มาไว้รวมกันและการชาร์จในขณะขับเคลื่อน อีกทั้งยังได้รับรางวัลรถประจำทางแห่งปี 2019 ในหมวดหมู่ยานยนต์เขตเมือง และรางวัลนวัตกรรมในหมวดหมู่ระบบพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่งานแสดงสินค้าระบบเคลื่อนที่ ปี 2018 ของภูมิภาคยุโรปที่จัดขึ้นในกรุงปารีส

สำหรับ การขนส่งสาธารณะในเขตปริมณฑล เราได้จัดแสดงยานยนต์ระบบ CNG ด้วยรุ่น IVECO BUS Crossway Low Entry Natural Power รถประจำทางที่ให้ความยั่งยืนแห่งปี 2018 ซึ่งมาพร้อมรูปลักษณ์การออกแบบที่โดดเด่นด้วยถังเชื้อเพลิงที่ผสานเข้ากับพื้นที่หลังคาด้านบนและสามารถเดินทางได้สูงสุด 600 กม. ต่อเชื้อเพลิงเต็มถัง

สำหรับการขนส่งสินค้าในเขตเมืองและปริมณฑล IVECO นำเสนอรุ่นต่างๆ ของตระกูล Daily Natural Power และชิ้นส่วนของตระกูล Daily Blue Power ซึ่งมี 4 รุ่น ซึ่งจะเป็นระบบเกียร์ Hi-Matic ที่พิเศษเฉพาะยานยนต์ระบบก๊าซธรรมชาติ Hi-Matic ตระกูล Daily เป็นยานยนต์เชิงพาณิชย์รองรับงานเบาที่ติดตั้งมาพร้อมกับเครื่องยนต์ CNG ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมกระปุกเกียร์อัตโนมัติความเร็ว 8 ระดับ รุ่นแรกของอุตสาหกรรม
ยานยนต์รุ่นต่างๆ ที่นำมาจัดแสดงในงาน แสดงถึงการตอบสนองภารกิจที่หลากหลาย ตระกูล Daily Blue Power มีตัวเลือกที่ครอบคลุมการใช้งาน ได้แก่ ห้องโดยสารที่โครงตัวถังที่มีตู้ทำความเย็น Lecapitaine สำหรับกลุ่มรถเช่าของ Le Petit Forestier ซึ่งเป็นผู้นำตลาดการเช่ารถห้องเย็นในภูมิภาคยุโรป ห้องโดยสารที่โครงตัวถังขนาด 7 ตันที่ ติดตั้งแท่นยืนและราวด้านข้างของ Junge ห้องโดยสารที่โครงตัวถังที่ติดตั้งโดย Fassi มาพร้อมกับตัวพ่วงทิปเปอร์และเครน Maxicargo สำหรับ Ville de Paris ซึ่งเป็นรถบรรทุกแวนที่มีห้องทำความเย็นของ Kerstner ในรุ่นลิมิเต็ด เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปี และรถบรรทุกแวนที่ติดตั้งสำหรับการขนส่งพัสดุโดย Spier และการปรับแต่งที่ออกแบบโดย Garage Italia Custom เพื่อเป็นการระลึกถึงการครบรอบการถือกำเนิดมาของยานยนต์ตระกูล Daily

สำหรับภารกิจในเขตเมืองและต่างจังหวัด CNG เป็นเทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการผสมระหว่างการขนส่งระยะทางไกลและการส่งมอบสินค้าในย่านใจกลางเมืองได้ IVECO นำเสนอยานยนต์ Eurocargo 2 รุ่น ที่มุ่งเน้นการใช้งานในเขตเทศบาลเมือง ซึ่งทั้งสองรุ่นเป็นระบบเชื้อเพลิง CNG ที่ได้ตามมาตรฐานการปล่อยมลพิษ EURO VI Step D มาล่วงหน้าหนึ่งปีก่อนประกาศใช้มาตรฐานนี้ หนึ่งในรุ่นที่นำมาจัดแสดงในกิจกรรมครั้งนี้ เป็นชนิดติดตั้งทิปเปอร์แบบ 3 ทางโดย Meiller
รุ่นที่สองที่นำมาจัดแสดงในบูธเป็นผลมาจากการทำงานของ IVECO ร่วมกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยี เพื่อแก้ไขปัญหาการปล่อยไอเสียทั้งในตัวรถหลักและตัวพ่วง โดยติดตั้ง ตัวรถหลักแบบสวีปเปอร์ ที่พัฒนาขึ้นโดย Johnston Engineering ซึ่งรวมเอาเครื่องยนต์ CNG ของตัวพ่วงและระบบส่งกำลังไฮโดรสแตติกเข้าด้วยกัน ช่วยลดการปล่อยมลพิษลงได้อย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับสวีปเปอร์ที่ติดตั้งกับตัวพ่วงแบบดั้งเดิม ซึ่งโดยทั่วไปจะเพิ่มเครื่องยนต์ดีเซลสำรองไว้ ซึ่งจะถูกควบคุมน้อยกว่าหรือแม้แต่ไม่ต้องควบคุมแล้ว เพื่อส่งกำลังไปยังอุปกรณ์กวาด

นอกจากนี้ IVECO ยังเป็นพันธมิตรร่วมกับ Carrier Transicold เพื่อสร้างสรรค์รถบรรทุกตอนเดียว Stralis NP กำลัง 400 แรงม้า ขนาดความจุบรรทุก 26 ตัน ที่ติดตั้งตัวถัง Frappa และมาพร้อมเทคโนโลยี Carrier Supra® CNG ซึ่งเป็นรุ่นใหม่และรุ่นแรกของอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่นี้เป็นชนิดใช้ก๊าซธรรมชาติ 100%, ใช้เชื้อเพลิงดีเซล 0 %, รถบรรทุกที่เรียบง่าย 100% ที่มาพร้อมห้องเย็น รถบรรทุกรุ่น Stralis NP จะใช้เฉพาะก๊าซธรรมชาติอัด (CNG) เท่านั้น ซึ่งจะตรงข้ามกับรถบรรทุกมาตรฐานสำหรับการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิที่มีเครื่องยนต์ดีเซล 2 ชุด ชุดหนึ่งสำหรับส่งกำลังให้รถบรรทุกและอีกชุดสำหรับรันคอมเพรสเซอร์ระบบหล่อเย็นซึ่งจะทำให้ไม่ต้องควบคุมอะไรมากนัก ทั้งยานยนต์และห้องเย็นจะทำงานด้วยเครื่องยนต์ก๊าซธรรมชาติอัดที่ติดตั้งมาพร้อมกับตัวเร่งปฏิกิริยาแบบ 3 ทาง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการปล่อยมลพิษก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ หรือ NO2 ต่ำ (ลดลง 90% เมื่อเทียบกับจากเชื้อเพลิงดีเซล) และฝุ่นละออง (ลดลง 99%) ซึ่งถือว่าต่ำกว่าขีดจำกัดควบคุมอย่างเพียงพอ สำหรับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือ CO2 อัตราการปล่อยออกมาจะลดลงมากถึง 95% เมื่อใช้เชื้อเพลิงไบโอมีเธน

สำหรับภารกิจ การขนส่งระยะไกล IVECO มีโซลูชันที่ใช้เทคโนโลยี LNG พร้อมจำหน่ายในตลาด ในภาคส่วนนี้ เราเป็นผู้นำตลาดด้วยรถบรรทุกระบบก๊าซธรรมชาติรุ่นแรกของตลาด Stralis NP ที่ออกแบบมาอย่างพิเศษเฉพาะสำหรับการขนส่งระยะทางไกล และโดยเฉพาะรุ่น Stralis NP 460 ซึ่งเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วได้รับเลือกให้เป็นรถบรรทุกที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำแห่งปีของสหราชอาณาจักร IVECO นำเสนอรถบรรทุกหลายรุ่นทั้งแบบลากพ่วงและแบบตอนเดียว รวมถึงรถบรรทุกรุ่น AD และรถบรรทุกหัวลากระดับต่ำใกล้พื้นดิน

นอกจากในภาคส่วนนี้ IVECO ยังนำเสนอยานยนต์รุ่นอื่นที่เป็นรุ่นแรกของอุตสาหกรรมอันเป็นผลมาจากการทำงานร่วมกับพันธมิตรที่สำคัญ ได้แก่ รถบรรทุก Stralis X-Way Natural Power กำลัง 400 แรงม้าที่ติดตั้งมาพร้อมกับเครื่องผสมคอนกรีตระบบไฟฟ้าของ CIFA ที่ไม่ใช้ระบบเครื่องยนต์ดีเซล การสิ้นเปลืองน้ำมันหล่อลื่นเป็นศูนย์ รถบรรทุกขับเคลื่อนด้วยไบโอ CNG และติดตั้งมาพร้อมกับเครื่องผสมคอนกรีตต่อพ่วงแบบไฮบริด Energy ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยบริษัท CIFA เครื่องผสมคอนกรีตทำงานด้วยเครื่องยนต์ระบบไฟฟ้าผ่านแบตเตอรี่ชนิดลิเธียม นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบการหมุนเวียนพลังงานในขณะเคลื่อนที่ ซึ่งจะหมุนเวียนพลังงานให้กับรถบรรทุกเมื่อลดความเร็วลง

รุ่นของรถบรรทุกตระกูล Stralis NP รุ่นอื่นๆ ที่นำมาจัดแสดงที่บูธได้แก่ รถบรรทุกระบบ LNG ขนาด 460 แรงม้ารุ่นแรกของตลาดเพื่อรองรับภารกิจการสลับเปลี่ยนตัวถังหลักที่ติดตั้งมาโดย SDG / Spier สำหรับกลุ่มรถเช่าของ Fraikin ซึ่งได้แก่ รถบรรทุกลากพ่วงระบบ LNG แบบ 6x2 รุ่นแรกที่สามารถเดินทางได้สูงสุด 750 กม. ต่อเชื้อเพลิงเต็มถัง รถบรรทุกลากพ่วงระบบ LNG แบบ 4x2 ที่สามารถเดินทางได้สูงสุด 1,600 กม. ต่อเชื้อเพลิงเต็มถัง และรถบรรทุกลากพ่วงระดับต่ำใกล้พื้นระบบ LNG ที่สามารถเดินทางได้สูงสุด 1,150 กม. ต่อเชื้อเพลิงเต็มถัง

ยานยนต์ทั้งหมดที่นำมาจัดแสดงในพื้นที่ปลอดจากระบบเชื้อเพลิงดีเซล 100% และปล่อยมลพิษต่ำนี้เป็นการแสดงให้เห็นอย่างแท้จริงว่า IVECO และพันธมิตรของเรามุ่งมั่นในพันธกิจการขนส่งและผลิตภัณฑ์ที่ให้ความยั่งยืน

​​